วิวัฒนาการของกระเป๋าราคาถูก

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวิวัฒนาการของกระเป๋าราคาถูกกันว่าก่อนที่จะมามีรูปแบบแบบในปัจจุบันนี้ คนสมัยก่อนใช้อะไรแทนกระเป๋าราคาถูกและกระเป๋าสตางค์ในสมัยก่อนมีรูปทรงอย่างไร คำว่ากระเป๋าาสตางค์หรือ wallet ในภาษาอังกฤษนั้นถูกนิยามเมื่อศตวรรษที่ 14 เราจึงใช้เวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากระเป๋าราคาถูก โดยสมัยนั้นเค้าใช้กระเป๋าลักษณะนี้ ในการม้วนเก็บกระดาษ ที่มาของคำว่า wallet กล่าวกันว่าบิดเบือนมาจากภาษากรีกโบราณ kibisis แปลว่า กระสอบที่เทพเจ้า Hermes ใช้และกระสอบที่ฮีโร่ในตำนานของกรีก เพอซีอุสใช้บรรจุหัวของเมดูซ่าภายหลังได้ถูกแปลว่าเป็นคำว่า wallet หรือกระเป๋าราคาถูกที่เราใช้เรียกกันทุกวันนี้ โดยคำว่า wallet ได้ถูกบัญญัติความหมายว่าบรรจุภัณฑ์ทรงแบนใช้ในการเก็บธนบัตรในปี คศ.1834

ในยุคเรเนซองส์มีการใช้โลหะในการแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรามากขึ้นจึงได้มีการออกแบบกระเป๋าราคาถูกให้สามารถเก็บเหรียญโลหะได้เยอะขึ้น มีหลักฐานยืนยันจากนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษที่ได้บันทึกไว้พ่อค้าหนุ่มชาวอังกฤษอายุ 25 ปี แต่งกายดูดี เขาพกดาบและมีบางสิ่งอยู่ที่เข็มขัดที่เขาเรียกว่า bowget ทำจากหนังสัตว์ เขาใช้มันเก็บเงิน สมุดบัญชีและบันทึกประจำวันของเขา ในช่วงศตวรรษที่19 ได้ระบุไว้ว่ากระเป๋าราคาถูกที่ใช้ในยุคนั้น นอกจากจะใช้ในการเก็บเงินแล้ว ผู้คนในยุคนั้นใช้กระเป๋าราคาถูกในการเก็บอาหารแห้งและของลับต่างๆที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็น โดยในยุคนี้การพกกระเป๋าสตางค์ไว้ที่เข็มขัดจะทำให้ดูดี แต่ผู้ที่พกกระเป๋าราคาถูกไว้ในกางเกงจะถูกมองว่าไม่มีวัฒนธรรม ในยุคปัจจุบันกระเป๋าราคาถูกแบบสองพับ(bi fold) ที่มีช่องใส่การ์ดเยอะๆกลายเป็นมาตรฐานของกระเป๋าสตางค์ในยุคปัจจุบันไปแล้ว โดยเริ่มในช่วงปี 1950 ที่เริ่มมีการใช้บัตรเครดิต และปัจจุบันกระเป๋าสตางค์ขนาดที่ฟิตกับกระเป๋าราคาถูกกางเกงกลายเป็นที่นิยมสูงสุด

ข้อควรรู้ก่อนที่จะศัลยกรรม ทำตา 2 ชั้น วิธีศัลยกรรมตามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ทำตา 2 ชั้นเดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีแต่กระแสเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นหนังเกาหลี แฟชั่นเกาหลี อาหารเกาหลี หรือแม้แต่ตากลมโตบ้องแบ๊วน่ารักๆ แบบสาวเกาหลี จนทำให้สาวไทยหลายคน อยากจะเนรมิตกายให้สวยใสน่ารักแบบเดียวกับเค้าบ้าง และเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำให้สาวๆ หลายๆ คนเริ่มสนใจไปทำศัลยกรรมตาตัวเองให้ดูกลมโต รวมไปถึงการทำตา 2 ชั้น ซึ่งเป็นที่นิยมกันอยู่ขณะนี้ แต่ก่อนที่จะไปทำศัลยกรรมตา มาเรียนรู้กันซักหน่อยว่า มีวิธีการทำตา 2 ชั้นอย่างไร และแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

วิธีที่ 1 การเย็บเปลือกตาด้านใน โดยแพทย์จะเย็บจากเปลือกตาด้านใน วิธีนี้จะมีระยะเวลาคงทนอยู่ที่ 1-2 ปีเท่านั้น แล้วชั้นตาจะหลุดทำให้ต้องแก้ไขใหม่
วิธีที่ 2 การตัดหนังตาออกและเย็บ แพทย์จะกรีดเปลือกตาบนเป็นทางยาว เพื่อเอาไขมันส่วนเกินออกแล้วเย็บแผลตามรอยกรีด ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ชั้นตาจะเป็นตะเข็บรอยแผลหยาบและเป็นรอยยาว
วิธีที่ 3 การกรีดเปลือกตา ไม่แตกต่างจากวิธีที่สอง แต่แผลจะเล็กและเนียนกว่า
วิธีที่ 4 การใช้เลเซอร์ วิธีนี้จะทำให้เลือดออกน้อย แต่ไม่ได้ทำให้แผลสวยกว่าการผ่าตัดปรกติ
วิธีที่ 5 วิธี ดูดไขมัน เป็นเทคนิคการเจาะรูเล็กๆ ประมาณ 1 ซม. ที่เปลือกตาบนแล้วดูดไขมันออก ถ้าทำถูกจุดโดยแพทย์ที่ชำนาญ จะได้ชั้นตาสวยและดูเป็นธรรมชาติ
วิธีที่ 6 ดูดไขมันร่วมกับการใช้ Microscopic Surgery เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด วิธีนี้จะมีรอยแผลเป็นที่เปลือกตาเล็กมาก แทบมองไม่เห็น ไม่มีอาการบวมช้ำ และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

แนะนำวิธีการศัลยกรรมตาและข้อดีข้อเสียทำตา 2 ชั้นกันไปแล้ว สาวหมวยหรือสาว ๆ คนไหนอยากเพิ่มสวยให้กับตัวเองด้วยการทำศัลยกรรมทำตา 2 ชั้นดูบ้าง ก็อย่าลืมหาข้อมูลให้ดีก่อนทำและเลือกปรึกษากับศัลยแพทย์ที่น่าเชื่อถือทุกครั้ง เพราะการศัลยกรรมความงามล้วนมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบหรือผลแทรกซ้อนได้ทุกเมื่อ